ฟอกสีฟัน

Table of Contents

ฟอกสีฟัน คือ อะไร?

ฟอกสีฟัน คือ การทำให้สีฟันธรรมชาติที่มีสีขาวอมเหลือง กลายเป็นฟันที่สว่างขึ้น ทำให้รอยยิ้มดูสดใสและสวยงามยิ่งขึ้น

ฟอกสีฟันมีแบบใดบ้าง ?

การฟอกสีฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่

  1. ฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ (In office bleaching) ทันตแพทย์จะเป็นผู้ลงมือฟอกสีฟันด้วยตัวเอง โดยอาจมีตัวกระตุ้น เช่น แสง Cool light, Laser หรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำยาฟอกสีฟัน น้ำยาฟอกสีฟันที่ใช้จะมีความเข้มข้นสูง สามารถทำให้ขาวขึ้นได้ภายใน 30-60 นาที แต่อาจเป็นอันตรายหากใช้ผิดวิธี จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลโดยทันตแพทย์
  2. ฟอกสีฟันด้วยตนเอง(Home bleaching) โดยใช้ถาดฟอกสีฟัน ร่วมกับน้ำยาฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะเป็นผู้พิมพ์ปากส่งผลิตถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลให้คนไข้ พร้อมให้น้ำยาฟอกสีฟันกลับไปใช้ โดยคนไข้บีบน้ำยาฟอกสีฟันและใส่ถาดฟอกสีฟันด้วยตนเอง ตามเวลาที่ทันตแพทย์แนะนำ
  3. ฟอกสีฟันเฉพาะซี่ (Non-vital tooth bleaching)  เป็นการฟอกสีฟัน ในฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมาแล้วมีลักษณะฟันสีคล้ำ

ฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์

ข้อดี

  1. เห็นผลเร็ว ฟันขาวขึ้นภายใน 30-60 นาที
  2. ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  3. ดูแลโดยทันตแพทย์ หากมีอุบัติเหตุฉุกเฉิน สามารถแก้ไขได้ทันที

ข้อเสีย

  1. อาจมีอาการเสียวฟันมากกว่าแบบอื่น เนื่องจากน้ำยาฟอกมีความเข้มข้นสูง(แต่จะหายเสียวฟันในที่สุด)
  2. ต้องเดินทางมาฟอกที่คลินิก

ฟอกสีฟันด้วยตนเอง

ข้อดี

  1. ถาดฟอกสีฟันสามารถใช้งานซ้ำได้
  2. สามารถฟอกได้ตามความต้องการ โดยไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์

ข้อเสีย

  1. เห็นผลช้าโดยทั่วไปใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
  2. อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ต้องสวมถาดฟอกสีฟัน ระหว่างวัน / ระหว่างนอน หรือ ตามทันตแพทย์แนะนำ

ฟอกสีฟันเฉพาะซี่

ในกรณีที่ฟันซี่นั้นได้รับการวินิจฉัยโพรงประสาทฟันตายและต้องทำการรักษารากฟัน เมื่อเวลาผ่านไป ฟันซี่นั้นๆจะมีสีคล้ำขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของฟันตาย ก็สามารถฟอกสีฟันให้ฟันขาวขึ้นได้ (ต้องได้รับการรักษารากฟันจนแล้วเสร็จก่อน)

การฟอกสีฟัน เหมาะกับ เคสแบบไหน?

  1. ผู้ที่ต้องการมีรูปลักษณะฟันเดิมตามธรรมชาติ แต่ต้องการให้สีสว่างขึ้น
  2. ผู้ที่ต้องการฟันขาวขึ้น โดยไม่ต้องการทำการบูรณะฟันด้วย ครอบฟัน หรือ วีเนียร์
  3. ผู้ที่ต้องการต้องการทำวีเนียร์หรือครอบฟันในฟันบางซี่ และต้องการฟอกสีฟันธรรมชาติ ให้ขาวขึ้นก่อนเพื่อให้สีฟันสม่ำเสมอ
  4. ผู้ที่เคยมีโพรงประสาทฟันตาย และรู้สึกว่าฟันซี่นั้นๆสีคล้ำขึ้น (ต้องได้รับการรักษารากฟันจนแล้วเสร็จก่อน)
  5. ผู้ที่ต้องการมีรอยยิ้มที่ดูสดใสโดดเด่น ทำให้มั่นใจขึ้น เนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น รับปริญญา แต่งงาน ฯลฯ
     
     

ข้อจำกัดของการฟอกสีฟัน

  1. วัสดุอุดฟัน , ครอบฟัน,วีเนียร์ จะไม่ขาวขึ้นจากการฟอกสีฟัน
    • หากมีการรักษาดังกล่าวที่บริเวณฟันหน้า อาจต้องทำการรื้อและบูรณะใหม่ ภายหลังการฟอกสีฟัน
  2. หากมีคราบกาวจัดฟันอยู่บนผิวฟัน น้ำยาฟอกสีฟันจะไม่สามารถเข้าถึงบริเวณนั้นๆ ทำให้สีฟันหลังฟอกดูไม่สม่ำเสมอ
    • หากคนไข้เคยจัดฟันมาก่อน ควรแจ้งทันตแพทย์ เพื่อให้ทันจแพทย์ขัดกาวจัดฟันให้หมดก่อนเริ่มการฟอกสีฟัน
  3. กรณีมีฟันตกกระ การฟอกสีฟันจะทำให้ฟันขาวสว่างขึ้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอได้
    • อาจต้องอาศัยการบูรณะฟันอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น วีเนียร์ , การทำ resin infiltration

ผลข้างเคียงหลังการฟอกสีฟัน

ภายหลังการฟอกสีฟัน คนไข้อาจรู้สึกถึงอาการข้างเคียงต่างๆ ดังนี้
  • อาการเสียวฟัน
    • คนไข้จะรู้สึกเสียวฟันมากในช่วง 1 คืนแรก และจะค่อยๆหายเสียวฟันภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจาการฟอกสีฟัน
    • สามารถบรรเทาอาการได้โดย
      1. ทานยาแก้ปวด พาราเซตามอล
      2. ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน
  • อาการแสบเหงือก เหงือกเปลี่ยนเป็นสีขาว
    • เกิดจากน้ำยาฟอกสีฟันซึมไปโดนเหงือก โดยทั่วไปจะหายได้เอง ภายใน 1-2 สัปดาห์

ฟอกสีฟัน Cool Light

ด้วยน้ำยาฟอกสีฟัน SDI POLA จากออสเตรเลีย
฿ 5,990 บาท ฟอก 2-4 รอบ รวม 30-60 นาที ขาวขึ้น 6-8 ระดับ
  • รวมขูดหินปูนและขัดฟันทั้งปาก
  • รวมน้ำยาลดอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน
  • สามารถใช้ร่วมกับ ประกันสังคม โดยไม่ต้องสำรองจ่ายได้ 900 บาท/ปี